วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

.:: Difference of love


วันนี้ก็ได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งนะ เป็นนิยายแนวหวานๆ กุ๊กกิ๊กน่ารัก เรื่องราวเป็นประมาณว่า พระเอก กะนางเอกเป็นแฟนกันมา 7 เจ็ดปีแล้ว รักกันโดยที่ทั้งคนแทบจะไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย
ชาย  เรียน วิทย์-คณิตฯ (รอบคอบ เจ้าระเบียบจ๋า เนียบมาก ต้องตามกฎ)
หญิง เรียน ศิลป์-ภาษา (ง่ายๆ สบายๆ อินดี้ อย่ามาหวังอะไรมาก)

ตกลงเป็นแฟนกันในวันวาเลนไทน์ (โรแมนติกใช่มั๊ยหล่ะ) 555+++
ทั้งสองคนตกลงเป็นแฟนกันโดยที่ ชายต้องง้อ หญิงทุกครั้ง ต้องยอมเสมอแม้ตัวเองไม่ทำผิด
แม้นางเอกจะบอกว่า "เราเลิกกัน" พระเอกก็ยอมเพียงเพราะรัก เชื่อมั๊ยว่าตั้งแต่อ่านมาก็คืดว่าจะมีอยู่หรอผู้ชายแบบนี้ มีจริงๆหรอ หรือถ้าจะมีก็คงน้อยมากมั้ง เบื่อนางเอกอยู่นะงี่เง่าจริงๆเลย แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่ออิตาพระเอกเราก็ยอมคะ..(เชื่อเขาเลย) ...สิ่งสุดท้ายที่พระเอกขอนางเอก คืออะไรรู้มั๊ย??
.
.
.
.
เอ้าเฉลยให้ก็ได้ "ขอกอดครั้งสุดท้ายได้ไหม"..โอ๊ย!! พระเจ้า บูชาเขาเลย ^^(อิจฉา) 
แต่หนังสือเล่มนี้จบแฮปปี้ เอนดิ้งคะ อิอิ น่ารักมากๆด้วย
หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วได้อะไรหลายๆอย่างนะ

เพราะผู้ชายและผู้หญิงมีความคิด มุมมองที่ต่างกัน "ต่างมมุมรัก"
บางครั้งเรื่องบางเรื่องของเขาที่คิดว่าไม่สำคัญกับมีความสำคัญมากสำหรับเธอ
บางโอกาสวันพิเศษที่ไม่สำคัญกับหนึ่ง แต่อีกหนึ่งคนมันคือวันที่สำคัญมาก...

ผู้ชายไม่ค่อยโรแมนติกหรือไม่ถึงขั้นติดลบกันเลย
เธอไม่ได้ต้องการการรักเพียงเปลี่ยนคนรักให้เป็นคนในแบบที่เธอเป็น
กับคนอื่นเราควรรู้จักโอนอ่นผ่อนปรนทั้งที่ใจความจริงแล้วเราควรแคร์กับคนที่รักมากที่สุด
และมันกลายเป็นหน้าที่หลักสำหรับ"แฟนกัน" ที่ เธองอน เขาง้อ ทั้งที่บางครั้งเขารู้สึกงงว่า'เราผิดตรงไหน'เธออยากให้เขาง้อ อย่างน้อยเธอก็รู้สึกว่าเธอยังมีค่าสำหรับเขาอยู่บ้าง...

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

.:: Don't look now


Far East Movement ft. Keri Hilson

Don't look now.

Lyrics


I saw you dancing on that speaker box, girl what's your name?
I see you texting on that bbm, can we exchange?
I got two glasses at my table, can I show you the way?
Tonight's the night to let it go, go, girl it's okay.

Yeah, I'm not looking for no strings, you're not looking for a ring
If you're ready for this fling, then meet me in the back.
I never knew it'd be like this, such an unexpected twist
started off with just a kiss, I don't know how to act.

(Keri Hilson)
Hey, uh, I know I promised you I'd take it slow
I know I swore on everything I own
But I can't resist, how's just one kiss?
But don't look now
You've got me going, I'm going, I'm gone.
Don't look now
You've got me going, I'm going, I'm gone
Don't look now
I can't resist, how's just one kiss?
Don't look now.

My heart is pumping like that bass before I pick you up
The way we stole each other's hearts we playing Stick em up
I take a shot of ciroc to get me in the zone now
She took a step out the door, from head to toe she's all "wow"

I'm not looking for no strings, you're not looking for a ring.
If you're ready for this fling, then meet me in the back.
I never knew it'd be like this, such an unexpected twist
started off with just a kiss, I don't know how to act.

(Keri Hilson)
Hey, uh, I know I promised you I'd take it slow
I know I swore on everything I own
But I can't resist, how's just one kiss?
But don't look now
You've got me going, I'm going, I'm gone.
Don't look now
You've got me going, I'm going, I'm gone
Don't look now
I can't resist, how's just one kiss?
Don't look now.

Somethin' 'bout this girl
she shakin' up my world
she got me doin' things I never did before.
Damn, there's somethin' 'bout this girl
she shakin' up my world
she got me out my zone, I'm losin' all control.
(x2)

(Keri Hilson)
Hey, uh, I know I promised you I'd take it slow
I know I swore on everything I own
But I can't resist, how's just one kiss?
But don't look now
You've got me going, I'm going, I'm gone.
Don't look now
You've got me going, I'm going, I'm gone
Don't look now
You've got me going, I'm going, I'm gone
Don't look now
You've got me going, I'm going, I'm gone
Don't look now.

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554

::ol- 10 วิธี ทำให้สมองแจ่ม

อันดับที่ 10 นอนหลับอย่างเพียงพอ   ทำไม ละ
    >>การอดหลับอดนอน มันมีผลต่อระบบต่างๆในร่างกายของเรา โดยเฉพาะในส่วนของการรับรู้ ดังเช่น ความทรงจำ และ สมาธิ นอนไม่พอยังทำให้เกิดปรากฎการณ์ ที่เรียกว่า snowball effect แถมจะมีผลเรื้อรังอีกด้วยนะ!! ทำไง? เข้านอนให้ตรงเวลา ก่อนนอนก็อย่าแจ้นไปกินข้าว เล่นเกมส์ หรือ หาโน่นหานี่มาทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูหนาว พยายามเข้านอนแต่หัวค่ำ จะได้ตื่นขึ้นมารับรุ่งอรุณ ได้อย่างแจ่มใส เข้านอนแต่หัวค่ำจะช่วยให้คุณอารมณ์ดีและ กระปรี้กระเปร่าด้วยนะ จริงไหม!!  
  

อันดับที่ 9 ผ่อนคลาย ทำไมละ?
  >> ก็เพราะว่าความเครียดมีผลต่อด้านจิตใจ และลดประสิทธิภาพด้านความคิด ทำไง? พยายามทำอะไรที่เป็นการ relax เช่นการนั่งสมาธิ

อันดับที่ 8 ออกกำลังกาย ทำไม ละ?
  >>ออกกำลังกายที่เน้นการทำงานของหัวใจ จะทำให้่ช่วยให้ ระบบเผาผลาญพลังงานดีขึ้น และทำให้หัวใจไม่เสื่อมเร็วด้วย ทำไง? ไปออกกำลังกายไง เน้นการออกกำลังกายที่เน้นการทำงานของหัวใจ และออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ 
  

อันดับที่ 7 กินเยอะๆ พวกผักสีเขียว ทำไม ละ?
  >> ผักสีเขียวหนะมีวิตามินสูง ทั้งยังมีแอนตี้ออกซิเด้นที่จะช่วยป้องกัน ความจำเสื่อม เช่น vitamin E,C,B มีอยู่เยอะในผักสีเขียว ดังนั้นกินเข้าไปโลด ดีทั้งนั้น ทำไง? กินผักผลไม้ไม่ใช่เรื่องยากเลยนะ ลองทำอาหารบำรุงสมองเช่นสลัดดูก็ได้

อันดับที่ 6 เข้าเรียน!! ทำไม ละ?
  >>ก็ความรู้คือพลังไงละ เคยได้ยินบ่? ทำไงดี? พยายามหาความรู้เข้าสมองให้เยอะๆ มีเรียนก็เข้าเรียน หุๆ แค่เพียงการ เทคคอร์สสักคอร์ส เพียงคอร์สเดียว ก็จะช่วยให้คุณได้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นแล้วแหล่ะ รู้มาก เก่งมาก ไม่ยาก ใช่ไหม....

 อันดับที่ 5 เล่นเกมส์พัฒนาสมอง ทำไม?
  >>เกมส์ด้านตรรกะ จะช่วยให้คุณได้ใช้งานสมอง ด้านซ้าย ช่วยพัฒนากระบวนการคิดอย่างมีเหตุมีผล และทำให้กระบวนการคิดด้านตรรกะดีขึ้น ทำไง? เดี๋ยวนี้มีเกมส์แนวนี้เยอะแยะ เช่นเกมส์อักษรไขว้ โซดูกุ หาซื้อสักเล่มก็ได้ หรือจะเล่นวีดีโอเกมส์ หรือเกมส์คอมฯ ที่มันเอาไว้ "พัฒนาสมอง" หรือไม่ก็หาเล่นเกมส์แนวนี้ออนไลน์ ก็ได้ 

อันดับที่ 4 อ่านมากเก่งมาก ทำไม?
  >>คงไม่มีใครจะปฎิเสธนะครับว่าการอ่านมีประโยชน์แค่ไหน เดี๋ยวนี้นิยายหลายเรื่อง ก็มีในรูปแบบดิจิตอล หรือหาอ่าน แบบออนไลน์ก็ได้ ทำไง? เลือกหนังสือมาสักเล่ม แล้วเริ่มอ่าน อ่านปกมันดูก่อนก็ได้ แล้วลองหาดูว่า เล่มไหนที่เราอยากอ่าน หาเจอแล้วก็อ่านมันเสีย   

อันดับที่ 3 หางานอดิเรกที่สร้างสรรค์ทำ ทำไม?
>>งานด้าน Creative จะพัฒนาสมองด้านขวา ในขณะที่ สมองด้านซ้ายจะเกี่ยวกับด้านความคิด ตรรกะต่างๆ พยายามใช้สมองทั้งสองด้าน แล้วสมองของคุณจะแจ่ม!! ทำไง? ใช้เวลาสักชั่วโมง เพื่อทำงานอดิเรกที่ creative เช่น วาดรูป แกะสลัก ถ่ายภาพ หรือแม้แต่ทำอาหาร ถ้าคุณไม่รู้จะทำไรดี ก็ลองหาไรทำเป็นกลุ่มดูสิ

อันดับที่ 2 เลิกบุหรี่! ทำไม?
   >>นอกจากการสูบบุหรี่จะทำร้ายคนอื่นแล้ว ควันบุหรี่นี่แหละทีเป็นปัจจัยที่ทำให้คุณ ดูแก่ขึ้น และลดความสามารถในการจดจำ ทำไง? การเลิกบุหรี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าใดนัก แต่มันก็ ทำได้นะครับ มีวิธีแนะนำหลายๆอย่างเลยเกี่ยวกับ การเลิกบุหรี่ ลด ละ เลิก ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ได้ผลดีทีเดียว
 
 อันดับที่ 1 เล่นเกมส์แนววางแผน ทำไม?
    >>การเล่นเกมส์ที่เกี่ยวกับการวางแผนจะช่วยให้คุณเพิ่ม ทักษะการคิดด้านการวางแผนและทำให้คุณรู้จัก วิธีแก้ปัญหาที่คล้ายๆกันได้ หากเจอปัญหาในชีวิตจริง ทำไง? เกมส์แนวนี้มีเยอะ ทั้งเกมส์กระดาน เช่น หมากรุก หรือวีดีโอเกมส์ ก็มีแนวนี้เยอะจะตาย เลือกสักเกมส์ที่คุณอยากเล่นดู หวังว่าบทความเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้รู้วิธีทำ 


::ol- Data Warehous คืออะไร?



::ol- OLTP คืออะไร


ระบบ OLTP (On-Line Transaction Processing)
  1 ความหมาย :: การประมวลผลธุรกรรมออนไลน์  
n  OLTP (Online Transaction Processing) เป็นระดับ (class) ของโปรแกรมที่อำนวยความสะดวก และจัดการtransaction-oriented application ตามปกติสำหรับการป้อนข้อมูล และดึง Transaction ในอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่ง ในการผลิตบางที่มีการติดตั้งผลิตภัณฑ์ OLTP อย่างกว้างขวาง คือ IBM Customer Information Control System (CICS)
n  On-line Transaction Processing System (OLTP) เป็นระบบ ที่อำนวยในด้านความรวดเร็วทันใจในการบริการให้แก่ลูกค้า โดยเมื่อป้อนข้อมูลเข้าเครื่องแล้ว หน่วยประมวลผลกลาง จะทำการตอบสนองกลับมาอย่างรวดเร็ว
 จึงเป็นระบบที่แพร่หลายในธุรกิจที่เกี่ยวกับงานบริการมาก เช่น งานธนาคาร งานโรงแรม และงานธุรกิจสายการบิน เป็นต้น
  2ลักษณะงานการประมวลผลธุรกรรมออนไลน์
¨ ใช้อุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่สามารถเก็บข้อมูลลงในฐานข้อมูลของระบบคอมพิวเตอร์ได้ทันที
¨ การปรับค่าของข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและการเพิ่มข้อมูลลงไปในฐานข้อมูล
¨ มีการแก้ไขข้อมูลพร้อมๆกันตลอดเวลา
¨ ถ้าหากอยากวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบ OLTP มักนิยมcopy ข้อมูลไปยังอีกเครื่อง เพราะถ้าหากทำในเครื่องปกติที่ทำงานอยู่จะทำให้การทำงานช้า

3ปัจจัยที่จะต้องคำนึงถึงในการจัดทำระบบ OLTP
        1) ขนาดและตำแหน่งของ rollback segment
        2) ดัชนี การจัดกลุ่ม และ การคำนวณตำแหน่งที่อยู่ (hashing)
        3) การออกแบบข้อมูลธุรกรรมให้เหมาะกับงานประยุกต์
        4) หน่วยเก็บและเนื้อที่ว่างสำหรับการเก็บข้อมูลใหม่
       5) ความเข้าใจลักษณะงานประยุกต์และการเขียนคำสั่งสำหรับค้นคืนข้อมูล
        6) การปรับปรุงสมรรถนะของระบบอย่างต่อเนื่อง
                ระบบ OLTP ที่พัฒนาขึ้นโดยใช้เทคนิคด้านฐานข้อมูลตามปกติมักจะไม่สามารถรับกับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมายเป็นประจำทุกวันได้ การนำระบบเช่นนี้มาใช้จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดเสียหายขึ้น วิธีการแก้ไขก็คือการแยกฐานข้อมูลออกมาเป็นส่วน ๆ ให้เหมาะกับการใช้งาน
           ปัจจัยที่จะทำให้ได้ตามที่กล่าวนี้มีอยู่สามข้อคือ
                  1) จะต้องมีระบบจัดคำสั่งค้นคืนข้อมูลให้ทำงานได้รวดเร็วที่สุด (query optimization)
                  2) การจัดดัชนี จัดกลุ่มข้อมูล และ การคำนวณตำแหน่งที่อยู่ข้อมูล
                  3) การประมวลผลคำสั่งค้นคืนในแบบขนาน โดยเฉพาะเมื่อใช้หน่วยเก็บแบบ RAID

ประโยชน์ที่ได้รับของระบบ OLTP
        - เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ ลดเส้นทางการใช้กระดาษ
        - มีความรวดเร็ว การคาดการณ์ที่แม่นยำมากขึ้น
        - 
เก็บข้อมูลได้จำนวนมากและมีประสิทธิภาพ

ข้อเสียของระบบ OLTP
        - ระบบการทำธุรกรรมออนไลน์มักจะอ่อนแอมากขึ้นเพื่อโจมตีโดยตรงและเป็นการละเมิด ลิขสิทธิ์
            - 
เมื่อองค์กรเลือกที่จะพึ่งพา OLTPการดำเนินการสามารถได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงหากระบบการทำธุรกรรมหรือฐานข้อมูลไม่สามารถใช้งานเนื่องจากการทุจริต ระบบข้อมูลล้มเหลวหรือปัญหาความไม่พร้อมของเครือข่าย 
        - ข้อมูลออนไลน์บางระบบต้องการการบำรุงรักษาแบบออฟไลน์ ซึ่งต่อไปจะมีผลกระทบต่อการวิเคราะห์ต้นทุนผลประโยชน์

ข้อเสนอแนะการออกแบบระบบ OLTP
        
- การออกแบบระบบ OLTP แบบนี้จำเป็นต้องหาทางให้ระบบสามารถทำงานได้ อย่างถูกต้องรวดเร็ว ตลอดเวลา เอื้ออำนวยให้ผู้ใช้จำนวนมากสามารถใช้ระบบได้พร้อมกัน อีกทั้งยังต้องสามารถแก้ไขฟื้นสภาพให้กลับดีดังเดิมได้หากเกิดความขัดข้องเสียหาย

ตัวอย่างการประมวลผลธุรกรรมออนไลน์
    ¨ ณ สนามบินแต่ละแห่งจะมีผู้โดยสารเข้ามารับบัตรที่นั่งของสายการบินต่างๆ เป็นจำนวนนับหมื่นๆ คน คอมพิวเตอร์ของสายการบินจะต้องตรวจสอบการสำรองที่นั่ง ต้องบันทึกเลขที่นั่งและเที่ยวบินรวมทั้งอาจจะต้องปรับเปลี่ยนโยกย้ายข้อมูลจากเที่ยวบินหนึ่งไปอีกเที่ยวบินหนึ่งได้ด้วย
     ¨ ในกรณีของศูนย์การค้า และ ซูเปอร์มาร์เก็ต จะมีการบันทึกเรคอร์ดการขายเพิ่มเข้าไปในฐานข้อมูลการขายตลอดเวลา รวมแล้ววันละเป็นหมื่นๆ รายการ 
    
¨ สำหรับความต้องการระบบฐานข้อมูลแบบกระจายอำนาจ OLTP  เช่น โปรแกรม brokering สามารถกระจายการประมวลผลธุรกรรมระหว่างคอมพิวเตอร์หลายบนเครือข่าย OLTP จะถูกรวม มักจะเป็นสถาปัตยกรรมบริการเชิง (SOA)และการบริการเว็บ
     ¨ ธนาคาร ( ATM)

::ol- คลังข้อมูลกับฐานข้อมูล

ความแตกต่างของคลังข้อมูลกับฐานข้อมูลที่ใช้ประจำวัน
               
1.  Consistency ทั้ง OLTP และ คลังข้อมูล ต่างก็ให้ความสำคัญในเรื่องข้อมูลควรจะมีความสอดคล้องกัน
        - สำหรับ 
OLTP ซึ่งมีการทำ transaction จำนวนมากๆสิ่งที่ต้องการคือการทำ transaction ให้ครบ ไม่มีการสูญหาย ดังนั้นจึงมีความจำเป็นผู้ส่งและผู้รับจะต้องรับรู้และตรวจสอบอยู่ตลอดเวลาว่าขณะนี้มีการทำ transaction เกิดขึ้นหรือไม่
        - สำหรับคลังข้อมูล จะไม่สนใจทำการทำ 
transaction แต่ละครั้ง แต่จะสนใจว่าการ load data ใหม่เข้ามานั้นทำสำเร็จหรือยัง และการ load data 
เข้ามาทั้งหมดนั้นถูกต้องหรือไม่

  2. Transaction 
          - สำหรับระบบ OLTP นั้น ในแต่ละวันอาจมีการทำ transaction มากมายซึ่งการทำ transaction แต่ละครั้งจะใช้ข้อมูลเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
          - สำหรับคลังข้อมูล แต่ละวันจะทำแค่เพียง 
1 transaction ซึ่ง transaction นี้อาจต้องใช้ข้อมูลเป็นจำนวนมากมาย
 3. Time Dimension 
          - สำหรับ 
OLTP นั้นจะทำงานอย่างรวดเร็วและทำ transaction อย่างสม่ำเสมอ สถานะของข้อมูลต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และความสัมพันธ์ระหว่างเอนติตี้ต่างๆก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย
          - สำหรับระบบคลังข้อมูลมักจะเก็บข้อมูลในอดีตเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ ดังนั้นข้อมูลจะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงตลอดวัน

             เป็นที่น่าสังเกตว่า ฐานข้อมูลประจำวัน ที่ต้องทำการ normalization ทั้งนี้เพราะในฐานข้อมูลประจำวัน ข้อมูลจำนวนมหาศาลมีการเปลี่ยนแปลงทำให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงทำให้ทันสมัย การออกแบบฐานข้อมูลประจำวันจึงต้องทำให้มีความซ้ำซ้อนหรือ redundancy น้อยที่สุด วิธีการที่จะทำให้ได้ตามจุดประสงค์คือการทำ normalization 
                สำหรับข้อมูลในคลังข้อมูลเป็นข้อมูลที่มีการกลั่นกรองมาแล้ว ใช้ในการวิเคราะห์ตอบคำถามของผู้บริหาร ประเด็นสำคัญจึงไม่อยู่ที่การทำให้ทันสมัย ทำให้ข้อมูลในคลังข้อมูลสามารถมีความซ้ำซ้อนได้ เพราะความซ้ำซ้อนมีข้อดีคือ การตอบคำถามและการออกรายงานสามารถทำได้รวดเร็ว เนื่องจากไม่ต้อง join หลายตาราง ดังนั้นในคลังข้อมูลจึงไม่มี่ความจำเป็นต้องทำการ normalization